6 อุปกรณ์เสริมที่คนใช้ iPhone ควรมี!!

หลังจากซื้อไอโฟนเครื่องใหม่มาใช้ หรือแม้แต่มีไอโฟนอยู่แล้ว ก็จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมมาใช้คู่กันด้วยนะฮะ มีแล้วชีวิตดีขึ้นจริงๆ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ชิ้นไหนควรซื้อ ตามไปดูกันฮะ!!

สำหรับคนที่ใช้ไอโฟนอยู่แล้วจะรู้เลยว่า Apple มีอุปกรณืเสริมค่อนข้างเยอะ ซื้อแล้วซื้ออีก ทั้งของเก่าของใหม่ บางชิ้นรองรับรุ่นนั่นนี่ขึ้นไป อัปเกรดเครื่องใหม่ก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมไปด้วย แต่ที่สาวกไอโฟนยังตามซื้อตามใช้กันก็เพราะว่ามีอุปกรณ์เสริมแล้วชีวิตดีขึ้นจริงนะฮะ มันสะดวกสบายขึ้นหลายอย่างเลย และสำหรับคนที่ย้ายมาจากแอนดรอยด์ การมีอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ช่วยให้ใช้งาน iPhone ได้สะดวกสบายขึ้นเช่นกันนะฮะ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะซื้ออุปกรณ์เสริมอะไรดี อันไหนจำเป็นต้องซื้อ อาตี๋รีวิวทีมก็รวบรวมอุปกรณ์เสริมที่ควรมีไว้ให้แล้วนะฮะ และบางอันใช้แล้วชีวิตดีด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันฮะ!!

6 อุปกรณ์เสริมที่คนใช้ iPhone ควรมี!!

1. เคสที่รองรับ MagSafe

เคสมือถือจำเป็นต้องมีไม่ว่าจะเป็นไอโฟนหรือแอนดรอยด์ก็ควรมีเอาไว้ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับตัวเครื่อง สำหรับไอโฟนการใช้เคสที่รองรับ MagSafe ก็จะเพิ่มความสะดวกขึ้นไปอีกขั้น เพราะสามารถชาร์จแบบไร้สายได้ แถมติดแน่นด้วย แค่วางบนแท่นชาร์จ MagSafe ก็ชาร์จได้แล้วฮะ นอกจากชาร์จไร้สายได้แล้วยังติดกระเป๋าสตางค์ MagSafe ได้แบบเก๋ๆ คนยุคใหม่พกแค่บัตรกับมือถือฮะ เคสไอโฟนที่รองรับ MagSafe และผ่านมาตรฐาน Apple ก็มีหลายแบรนด์ หลายรุ่น หลายราคาให้เลือกซื้ออยู่แล้ว ลองไปเลือกใช้กันดูนะฮะ

2. แท่นชาร์จ MagSafe

พูดถึงเรื่องเคสที่รองรับการชาร์จไร้สายไปแล้ว ก็ต้องมีแท่นชาร์จ MagSafe ด้วยนะฮะ แท่นชาร์จ MagSafe ตัวนี้สามารถชาร์จไร้สายได้ทั้ง AirPods และ iPhone เลยฮะ จะมีเคสที่รองรับ MagSafe หรือไม่มีก็สามารถชาร์จได้เหมือนกัน แต่ถ้ามีเคส MagSafe ก็จะติดหนึบกับแท่นชาร์จมากขึ้น ลดการร่วงหล่นได้ระดับนึง คนที่อยากสะดวกสบาย วางปุ๊บชาร์จปั๊บ ตัวนี้ก็น่าสนใจนะฮะ

3. อะแดปเตอร์ชาร์จ หรือหัวชาร์จ USB-C 20W

ตั้งแต่ iPhone 12 ขึ้นไป Apple ก็ไม่ได้ให้อะแดปเตอร์ชาร์จมาในกล่อง ด้วยเหตุผลที่ว่ารักษ์โลก ไม่อยากสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม อันเก่าที่มีก็ใช้ได้ แต่หลังจากเลิกแถมก็เอาอะแดปเตอร์ 20W มาวางขายแทน ในราคา 690 บาท หรือถ้าอยากได้ราคาที่ถูกลงมาหน่อยก็ไปหาซื้อของแบรนด์อื่นที่เป็น Third Party ก็ได้ฮะ

4. สายแปลงจาก Lightning เป็น 3.5 มม.

สำหรับคนที่ชอบใช้หูฟังหรืออุปกรณ์ที่ใช้แจ๊ค 3.5 มม. ก็จำเป็นต้องซื้อเจ้าสายแปลงตัวนี้นะฮะ เพราะ Apple ได้ตัดช่อง 3.5 มม. ออกตั้งแต่ตอนเปิดตัว iPhone 7 เป็นรุ่นแรกที่เหลือไว้แค่ช่อง Lightning ถ้าอยากใช้แจ๊ค 3.5 ก็เลยจำเป็นต้องมีสายแปลงตัวนี้เป็นอุปกรณ์เสริมอีกอันฮะ (ราคา 390 บาท)

5. หูฟังของ Apple

มีทั้งแบบหูฟังไร้สาย AirPods และหูฟังมีสายที่เป็นหัว Lightning ให้เลือกซื้อนะฮะ ในส่วนของราคาก็ต่างกันแบบชัดเจน หูฟังมีสายที่เป็นหัว Lightning จะมีราคาคาถูกกว่า (690 บาท) ถ้าชอบแบบมีสาย ไม่ได้รำคาญใจเวลาสายพันกัน อันนี้ก็เวิร์คอยู่ฮะ แต่ถ้าชอบความสะดวก สายไม่พันกัน ก็ต้อง AirPods ของ Apple เลยฮะ ราคาหลักพัน ได้เสียงกลางๆ ไมโครโฟนรับเสียงได้ดี ข้อดีของการใช้หูฟังของ Apple เองก็คือการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและสมูทฮะ นอกจากใช้งานกับไอโฟนแล้ว ก็ยังใช้กับ iPad, MacBook, iMac ได้อีก ใช้กับแบรนด์อื่นอาจจะดีเลย์นิดนึง ถ้าอยากประหยัดงบหน่อยก็ซื้อยี่ห้ออื่นมาใช้แทนได้ แล้วแต่ความสะดวก

6. AirTag

อันนี้เป็นตัวเลือกเสริมที่ถามว่าสำคัญมั้ยก็สำคัญสำหรับบางคนอยู่นะฮะ ถ้าขี้ลืมบ่อยๆ หรือหาของไม่ค่อยเจอ ไม่รู้เอาไปวางไว้ที่ไหน AirTag ก็เป็นอีกตัวช่วยนึงที่น่าสนใจทีเดียวนะฮะ ราคาอยู่ที่ 990 บาท แต่สามารถหาข้าวของที่เราหาไม่ค่อยจะเจอได้ง่ายขึ้นด้วยเรดาร์ในแอป Find my หรือถ้าไม่ใช่คนขี้ลืม แต่กลัวของสำคัญหายก็เอา AirTag ไปใช้ได้เหมือนกันนะฮะ