Metaverse อนาคตที่เป็นไปได้ หรือ ความล้มเหลวครั้งใหญ่?!

ประเด็นนี้มีการพูดถึงเป็นจำนวนมาก เพรามีช่วงหนึ่งที่เป็นกระแสใหญ่ มีคนสนใจเยอะ แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เพราะตอนนี้กระแสดันเงียบ! ผลตอบรับไม่ดีตามที่คาดไว้ อาตี๋รีวิวทีมเลยหยิบประเด็นนี้มาพูดถึงกันซะหน่อยว่า ‘Metaverse เป็นอนาคต หรือเป็นความล้มเหลว’ ยุคนี้ถึงเวลาของเมตาเวิร์สแล้วจริงรึป่าว?

ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่มีข่าวเมตาเวิร์สออกมาเยอะมาก และดึงความสนใจของผู้คนไปไม่น้อยเลย เมื่อ Mark Zuckerberg เป็นคนปลุกกระแสเมตาเวิร์สนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่คนแรกที่คิดขึ้นมา แต่ขอเปิดก่อนก็ยังดี เรียกว่าเป็นกลยุทธ์เปิดก่อนได้เปรียบ ถึงขนาดเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่จาก Facebook เป็น Meta เลยทีเดียว สินค้าและแนวทางก็เน้นไปที่เมตาเวิร์สเป็นหลักและลงทุนไปเป็นจำนวนมาก แผนก Reallity Labs ตอนนั้นก็ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำโครงการเมตาเวิร์สโดยเฉพาะ แค่ไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาก็มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไปราว 3 พันล้านดอลลาร์ 

ในขณะที่ธุรกิจหลักอย่าง Facebook และ Instagram ค่อยๆลดลงไปเหลือ 29% จาก 43% ถ้าเอามาเทียบกับปีก่อน จะเห็นว่าผลประกอบการของ Meta อยู่ในจุดที่ย่ำแย่ที่สุดก็ว่าได้ นับตั้งแต่ผลรายงานของไตรมาสที่ 4 เมื่อปี 2020 หรือเมื่อสามปีที่แล้วนะฮะ ในส่วนของธุริกิจ VR ของ Meta ก็ขาดทุนไปไตรมาสละ 1.02 แสนล้านบาท รวม 2 ปีก็ขาดทุนไปแล้ว 6.6 แสนล้านบาท จนต้องขึ้นราคาแว่น Meta Quest 2 ครั้งเดียวถึง 100 ดอลลาร์ เพื่อลดการขาดทุนค่าแว่นลง

มีคนมากมายที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเวลานี้ยังไม่ใช่ยุคเมตาเวิร์ส ยังต้องใช้เวลาเพื่อศึกษาพัฒนากันต่อไปอีกนาน นักลงทุนจำนวนมากก็คาดการณ์กันไว้ว่าโปรเจกต์ใหญ่อย่าง Metaverse ของ Mark Zuckerberg ดูไม่น่าจะไปรอด สังเกตได้จากหุ้นบริษัท Meta ที่ตกลงไปเกินครึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ กระแสเมตาเวิร์สก็เริ่มซาลง และผู้คนก็หันไปสนใจเรื่องอื่นมากกว่า

Vitalik Buterin ผู้สร้างเหรียญและเครือข่าย Ethereum ที่มีมูลค่ารองเป็นอันดับสองจากเหรียญ Bitcoin ก็ออกมาเตือนเหมือนกันว่า แผนการใหญ่อย่าง Metaverse ของ Mark Zuckerberg เป็นการด่วนตัดสินใจจนเกินไป ไม่ควรทุ่มเงินเป็นพันล้านให้กับโปรดักซ์ที่อาจไม่มีใครสนใจใช้ โปรเจกต์โลกเสมือนตอนนี้ก็ยังดูไม่น่าเชื่อถือและไม่น่าจะไปรอด

ในขณะที่ Mark Zuckerberg ออกมาชี้แจงกับนักลงทุนว่าปัญหาทางด้านธุรกิจและตัวผลิตภัณฑ์ไม่ได้ทำให้เค้าหมดหวัง แต่ได้กลับมาคิดทบทวนใหม่ เค้ายอมรับว่าการสร้าง Metaverse นั้นจะต้องใช้ทุนและเวลาในการพัฒนาเยอะมาก ๆ ไปต่ออีกหลายปีเลย และก็ให้คำสัญญาว่าจะพยายามลดค่าใช้จ่ายลงในอนาคต

ตัวเค้ายังคงมุ่งมั่นกับการพัฒนา Metaverse ต่อไป เพราะคาดว่าจะเป็นหนทางในการเรียกเงินมหาศาลเป็นพันล้านหมื่นล้านเข้าบริษัท ถึงตอนนี้ Reallity Labs จะมีรายได้ลดลง แต่มีโอกาสดีๆรออยู่ ยังคุ้มค่าที่จะลงทุน เพราะเมตาเวิร์สช่วยสร้างประสบการณ์เชื่อมต่อกับคนอื่นแบบสุดพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

จากช่วงที่เป็นกระแสจนมาถึงตอนนี้ก็พอจะเห็นได้แล้วนะฮะว่าเวลานี้ยังไม่ใช่ยุคของ Metaverse แม้ว่าหลายคนที่เล็งเห็นความเป็นไปได้ในอนาคตก็ยังออกมายอมรับว่า การจะสร้างเมตาเวิร์สออกมาให้สมบูรณ์หรือพร้อมให้ผู้คนใช้งานและเข้าถึงเทคโนโลยีนี้แบบสมบูรณ์ยังคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เลยนะฮะ ก็ยังไม่ถือเป็นความล้มเหลวไปซะทีเดียว ยังคงเป็นอนาคตที่มีความเป็นไปได้อยู่ เพียงแค่รอเวลาที่สมควรเท่านั้นฮะ

ที่มา : Fortune , Blognone