‘Review’ Vivo V15 Pro จอเต็มไร้ขอบมาพร้อม กล้องหน้าแบบ Pop up

สวัสดีครับ วันนี้ก็ได้มีโอกาสดีๆ มารีวิวมือถืออีกตัวหนึ่ง ที่น่าสนใจ ในราคาที่น่าสนใจเหมือนกับตัวเครื่อง นั่นคือ Vivo V15Pro นั่นเองครับ ..เนื่องจากเทรนด์ของมือถือใหม่ในปีนี้ที่ฮอตฮิตส่วนใหญ่ ก็จะมาเป็นแบบหน้าจอแบบไร้ขอบ และไร้ติ่งตรงข้างบนจอ ซึ่งตัว Vivo V15Pro นี้เองก็ไม่พลาดที่จะนำมาใส่มือถือ ให้เป็นจอไร้ติ่งและไร้ขอบด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีอะไรแปลกใหม่ยังไง ผมจะพาไปดูกันว่ามือถือตัวนี้เป็นอย่างไรบ้างกับการใช้งานทั่วไปครับ

ตัวเครื่อง

ตัวเครื่องจะออกแบบโดยใช้พลาสติกขัดเงา ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Spectrum Ripple ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างการไล่เฉดสี และลวดลายที่สวยงาม เวลาโดนแสงจะสะท้อนสีออกมาได้มีมิติสวยมากคับ และยังมีความโค้งเพื่อรองรับสรีระของฝ่ามือได้ในขณะใช้งาน โดยจะมีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงิน Topaz Blue กับสีแดง Glamour Red

ด้านบนของหน้าจอจะมีลำโพงสนทนาแอบซ่อนไว้ และยังมีเซ็นเซอร์วัดระยะห่างกับเซ็นเซอร์วัดแสงที่ถูกซ่อนไว้บริเวณนั้นอีกด้วย

ส่วนด้านข้างของตัวเครื่องจะมีความหนาที่ 8.54 มิลลิเมตร และมีปุ่มปรับระดับเสียงกับปุ่มเพาเวอร์อยู่ที่ด้านขวา

ส่วนด้านซ้ายจะมีช่องสำหรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ 3 ช่องสามารถใส่นาโนซิมได้ 2 ช่อง และการ์ด Micro SD อีก 1 ช่อง โดยจะรองรับความจุสูงสุดที่ 256GB นอกเหนือจากนั้นยังมีปุ่ม Smart Button สำหรับใช้เรียกผู้ช่วยอัจฉริยะซึ่งการกดหนึ่งครั้งจะเปิด Google Assistant สำหรับการกดสองครั้งติดกันจะเปิด Jovi Image Recognizer 

หน้าจอ

หน้าจอจะใช้จอแสดงผลแบบ Ultra Full View Display ขนาด 6.53 น้ิว ที่บางมากทำให้มีสัดส่วนหน้าจอสูงถึง 91.64% และมีความละเอียด 1080 x 2340 px ที่สำคัญตัวจอมาพร้อมกับเทคโนโลยี Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อเรื่อง สีสันอันสวยงดงาม!!

นอกจากนั้นยังได้ใช้กระจก 2.5D Gorilla Glass 5 ส่วน เพื่อป้องกันการกระแทกได้ส่วนหนึ่ง

กล้องหลัง

กล้องหลังจะให้มาทั้ง 3 ตัวที่ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 48 MP รูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.2นิ้ว มีมีระบบโฟกัสแบบ PDAF
  • กล้อง Depth sensor ความละเอียด 5 MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้องเลนส์มุมกว้าง AI Super Wide-Angle 120 องศาความละเอียด 8 MP รูรับแสง f/2.2

นอกเหนือจากกล้องก็ยังมีการเพิ่ม Software ที่เป็น AI เพิ่มเข้ามาอีกอย่างเช่น

  • AI Scene Recognition สำหรับปรับแต่งกล้องให้เหมาะกับซีนที่ถ่าย
  • AI Portrait Framing หรือการใช้ระบบ AI ในการช่วยจัดองค์ประกอบของการถ่ายภาพแบบบุคคล
  • AI Body Shaping ปรับแต่งรูปร่างของแบบ ถ่ายออกมาจะได้ผอมเพรียว
  • Super Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน ที่ทำได้การถ่ายภาพในที่มืดออกมาได้สว่างเลยทีเดียว

กล้องหน้า Pop Up

เนื่องจากเทรนด์หน้าจอที่เต็มขอบเต็มตากำลังมาแรง และหลายๆแบรด์มือถือก็อยากจะให้ไม่มีช่องกล้องหน้ามาแกะกะที่หน้าจอ ตัว Vivo V15Pro ก็เลยจัดกล้อง Pop Up มาให้เราใช้กัน สำหรับตัวกล้องจะเลื่อนขึ้นมาเองอัตโนมัติ (Elevating Front Camera) เมื่อเรามีการเข้าโหมดถ่ายด้วยกล้องหน้า หรือการปลดล๊อคหน้าจอด้วย Face Unlock

ซึ่งตัวกล้องหน้าที่แอบซ่อนอยู่ด้านหลังนั้น เวลาเรียกใช้งานจะเลื่อนโดยใช้ความเร็วแค่ 0.46 วินาทีเท่านั้น และทาง Vivo ได้เคลมว่าตัวกล้องนี้มีความอดทน แข็งแรง และได้รับการทดสอบโดยการดึงและบิดติดต่อกันได้กว่า 300,000 ครั้ง ยังไม่พอยังได้ผ่านการ Drop Test ถึง 10,000 ครั้งเลยทีเดียว

สำหรับความละเอียดของกล้องตัวนี้อยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับรูรับแสง F2.0 และ AI Face Shaping หรือโหมดปรับแต่งหน้าที่ทำได้ละเอียดยิบตั้งแต่สีผิวไปถึงรูปปากและโหมด AI Portrait lighting ที่จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของภาพที่มีส่วนมืดกับส่วนสว่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยังไม่พอ ยังมี AI Face Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามอัตโนมัติ

การปลดล๊อค

นอกจากนี้ อีกหนึ่ง เทรนด์ในปีนี้ นั่นคือระบบความปลอดภัยของตัวเครื่องแบบใหม่ ที่มือถือส่วนใหญ่นิยมใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) ซึ่ง Vivo V15 Pro ตัวนี้ได้พัฒนาร่วมกับทาง Goodix ซึ่งทำออกมาได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนใบหน้า (Face Access) ด้วยการจดจำจุดบนใบหน้ากว่า 1,024 จุด ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยไปอีก ไม่ให้ใครมาเนียนเอารูปถ่ายเรามาแสกนได้

ซึ่งหลังจากการที่ผมได้ทดลองใช้งาน ระบบปลดล๊อคต่างๆ ทั้งแสกนนิ้ว ทั้งใบหน้า แล้วต้องยอมรับว่าทำได้ดีเลยทีเดียว แสกนใบหน้าก็สะดวก และประหยัดเวลามากกว่าแสกนนิ้ว แต่เมื่อเครื่องวางนอนอยู่บนโต๊ะ การแสกนหน้าองศามันก็ไม่ได้ ก็เลยแสกนไม่ผ่าน และจากการที่ปลดล๊อตได้ทั้งสองแบบทำให้เราแสกนนิ้วก็ได้ในกรณีนี้ ซึ่งผมคิดว่าควรจะเป็นสิ่งพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับมือถือที่ควรจะมีหลังจากนี้ฮะ

การเชื่อมต่อ

สำหรับที่ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ข้างกันมีไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต MicroUSB และลำโพงเสียง

และการชาร์จจะมี Fast charge แบบพิเศษเฉพาะของ Vivo เรียกว่า Dual-Engine Fast Charging ทำให้เวลาเพียง 15 นาทีชาร์จได้ 24% และมีจุดที่น่าสังเกตุคือ ยังใช้รูชาร์จ แบบ Micro Usb อยู่ ทำให้ใครที่มีอุปกรณ์เสริมเป็น Usb C ก็จะใช้ไม่ได้นะฮะ แต่ข้อดีก็คือ อุปกรณ์เดิมๆ ที่ใช้ Micro USB ยังจะใช้ได้เหมือนเดิม

ราคา

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ของมือถือ Vivo V15 Pro นั้นราคาไม่แรงอย่างที่คิดเลยฮะ

ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 14,999 บาท หรือก็คือราคาไม่ถึงหมื่นห้า เพราะถ้าเราควักให้ร้านไป 15,000 จะได้เงินทอนกลับมา 1 บาท….แท่น

สเป็คของเครื่อง

หน้าจอ 6.39″ (16.23 cm) Super AMOLED
ชิปเซตQualcomm Snapdragon 675
Ram6GB
ความจุ 128GB storage
 Up to 256 GB
แบตเตอร์รี่3,700mAh
กล้องหลัง 148 MP f/1.8, focus PDAF
กล้องหลัง 2Depth sensor 5 MP f/2.4
กล้องหลัง 3AI Super Wide-Angle 120 degree angle
8 MP รf/2.2
กล้องหน้า32MP Pop-up camera
ระบบปฎิบัติการAndroid 9 Pie
ขนาดเครื่อง157.2 x 74.7 x 8.2 mm
185 g
กันน้ำ กันฝุ่นไม่มี
รองรับ 2 ซิมรองรับ

tag: #oppo #r15pro #review #popup #camera

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *